โปรแกรม DEFORM คือโปรแกรมไฟไนต์เอลิเมนต์ (Finite Element Method) สำหรับงานวิศวกรรมเพื่อการวิเคราะห์งานด้านการขึ้นรูปโลหะทุกประเภท (Metal Forming) ทั้งงานรีดร้อน และรีดเย็น (Hot and Cold Rolling) งานดึงและกดขึ้นรูป (Drawing and Cupping) งานแทงขึ้นรูป (Piercing) งานทุบขึ้นรูป (Forging) งานประกอบ (Assembly) งานเครื่องมือกล (Machining) เช่นการกลึง กัด ไส หรือเจาะ สามารถวิเคราะห์สองมิติและสามมิติ สามารถดูพฤติกรรมการขึ้นรูปโลหะตั้งแต่เบื้องต้น เช่นลักษณะการไหลของโลหะ ไปจนถึงพฤติกรรมชั้นสูง เช่นดูโครงสร้างและการกระจายตัวของเม็ดเกรน (Grain Structure) เป็นต้น
ด้วยความสามารถที่หลากหลาย ทำให้โปรแกรม DEFORM ถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวาง ทั้งในภาคอุตสาหกรรม และบริษัทชั้นนำทั่วโลกมานานกว่า 30 ปี ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการบิน อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนและอะไหล่ เป็นต้น เนื่องจากสามารถลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการออกแบบจากการสร้างแม่พิมพ์ ช่วยพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ ให้ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้หลายมหาวิทยาลัยและหน่วยงานชั้นนำทั่วโลก ใช้โปรแกรม DEFORM เพื่องานสอนและงานวิจัย เนื่องจากให้ผลคำตอบที่แม่นยำ ทำให้นักศึกษามองเห็นภาพการขึ้นรูปโลหะโดยไม่ต้องสร้างต้นแบบจริง
Hot forging (งานขึ้นรูปร้อน)
โดยโปรแกรม DEFORM ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในงานขึ้นรูปร้อนได้กับผลิตภัณฑ์ทุกประเภท สามารถจำลอง งานขึ้นรูปของชิ้นงานที่มีรูปร่างสมมาตร (Symmetry) และ ชิ้นงานที่มีรูปร่างไม่สมมาตร (Asymmetry) หรือซับซ้อน อาทิเช่น เพลาลูกเบี้ยว เฟือง ลูกสูบ แขนควบคุม คาน ได้อย่างแม่นยำ สามารถดูพฤติกรรมการไหลของเนื้อโลหะในแม่พิมพ์ (Die Fill) การพับเนื้อ (Fold) การแตก (Crack) แสดงทิศทางการไหลของเนื้อโลหะ (Line Flow Net) แรงในการขึ้นรูป (Forming Force) ที่คิดผลของอุณหภูมิ รวมถึงอุณหภูมิที่เกิดขึ้นจากการขึ้นรูป การวิเคราะห์ความเค้นและความเครียดของชิ้นงาน และแม่พิมพ์ อายุการใช้งานของแม่พิมพ์
Cold forming (งานขึ้นรูปเย็น)
งานขึ้นรูปเย็นประเภทต่างๆเช่น ตัวยึด ส่วนประกอบของลูกปืน หัวเทียน และชิ้นงานต่างๆทุกประเภท ที่ต้องการความละเอียดของตัวชิ้นงาน ได้ถูกรองรับด้วย การวิเคราะห์และจำลองที่แม่นยำของโปรแกรม DEFORM ช่วยหาแนวทางในการลดความผิดพลาดในการออกแบบแม่พิมพ์หรือกระบวนการการผลิตเพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้แรงที่ใช้ในการขึ้นรูป ยังสามารถถูกนำมาวิเคราะห์ความเสียหาย อายุการใช้งาน และความแข็งแรงของเครื่องมือ หรือแม่พิมพ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Machining (งานเครื่องมือกล)
ด้วยมาตรฐานและเทคโนโลยีระดับแนวหน้าของโปรแกรม DEFORM จึงได้ถูกคัดเลือกเพื่อนำมาใช้ในงานเครื่องมือกลในหลากหลายประเภท เช่น การเจาะ การกัด การตัด การกลึง การพับ เป็นต้น ซึ่งการวิเคราะห์และการจำลองงานเหล่านี้จะต้องอาศัยเทคนิคการวิเคราะห์พิเศษเฉพาะของโปรแกรม DEFORM จึงสามารถเห็นพฤติกรรมที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้อย่างแม่นยำและเที่ยงตรง
Heat treatment
โปรแกรม DEFORM ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในเชิงลึก เพื่อวิเคราะห์งานด้านการอบ-ชุบโลหะ(Heat Treatment) ซึ่งเป็นการปรับปรุงโครงสร้างจุลภาค เพื่อเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของโลหะ ด้วยการให้ความร้อนจนกระทั่งโลหะเปลี่ยนสถานะ (Phase) แล้วปล่อยให้เย็นตัวในอัตราที่ต่างกัน นอกจากนี้อาจมีการปรับปรุงปริมาณส่วนผสมของโลหะเพื่อให้ได้คุณสมบัติต่างๆ ตามที่ต้องการ สามารถวิเคราะห์การเปลี่ยนสถานะ (Phase Transformation) ปริมาณสัดส่วนของโลหะในแต่ละสถานะ ปริมาณคาร์บอน ความแข็ง (Hardness) การผิดส่วน (Distortion) ความเค้นตกค้าง (Residual Stress) และ ความแตกหัก (Fracture) รวมถึงสามารถวิเคราะห์ปัญหาระดับโครงสร้างจุลภาค (Microstructure) ด้วยการผนวกสมการ JMAK และ CA (Cellular Automata) เพื่อประมาณการเกิดผลึก (Recrystallization) ขนาดของเกรน (Grain Size) ความแข็งแรงของผิว (Hardness) เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรม รวมถึงสามารถปรับปรุงคุณภาพของงานโลหะในระดับจุลภาคได้ตามต้องการ
Mechanical joining
Complex forming operations such as rivets and staked fasteners are possible in both 2D and 3D simulations. Mechanical joining requires a robust FEM engine and mesh generator.
Rolling
Rolling applications range from ring rolling to shape rolling. Orbital forming, thread rolling, cross wedge rolling and other process are possible as well.